Search
Close this search box.

นายกฯ หารือ ผู้บริหาร CRRC เชิญชวนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง BCG Economy Renewable Energy และ EV

share to:

Facebook
Twitter

นายกฯ หารือ ผู้บริหาร CRRC เชิญชวนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง BCG Economy Renewable Energy และ EV

วันที่ 17 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่งซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า Mr. Yongcai Sun, Chairman and Executive Director, CRRC Group เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดย CRRC Group เป็นรัฐวิสาหกิจจีนที่ผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสายการผลิตและบริการแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา ออกแบบ การซ่อมแซม และให้บริการทางเทคนิค ซึ่ง CRRC ได้ทุ่มเทเวลาในการสร้างเครือข่ายและขยายธุรกิจไปสู่ขอบเขตที่กว้างขวาง อาทิ การพัฒนาเมืองสีเขียว และพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

บริษัทฯ ขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุน และช่วยเหลือการลงทุน มีความร่วมมือกันมายาวนาน บริการผลิตเครื่องจักรรถไฟที่หลากหลาย สำหรับรถไฟทุกแบบ ครบวงจร พร้อมถ่ายทอดความรู้และทักษะเทคโนโลยีระบบราง ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่สุดของจีน และมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง

โดยบริษัทฯ แสดงความสนใจลงทุนในประเทศไทยในส่วนที่มีศักยภาพ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนว่ามีโอกาสอย่างมากในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงในสาขาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้แก่ BCG Economy พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัท เพื่อประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบรางในไทย แบบครบวงจร สร้างมูลค่าและคุณค่าควบคู่กัน ยินดีร่วมพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมทั้งรถไฟเพื่อการขนส่งอื่นๆด้วย ต้องการเชิญนายกฯไปทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงด้วยตนเอง

ไทยให้ความเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากต่างประเทศด้วยระบบสาธารณูปโภคครบครัน และสิทธิพิเศษการลงทุน จึงอยากเชิญชวนมาตั้งโรงงานในไทย ควบคู่กับการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ไทย ไทยพร้อมด้านแรงงาน และ healthcare ที่จะดูแลนักลงทุน นอกจากนี้ ยังมีความต้องการหัวจักรรถไฟจำนวนมาก สำหรับการขนส่งทางรถไฟของไทย โดยไทยเสนอให้บริษัทฯ มองภาพระยะยาวการลงทุนในไทย ที่จะดีและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อาจพิจารณาตั้งเป็น 2nd Hub ในไทย

สำหรับโครงการ landbridge เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค เพื่อการขนส่งด้านพลังงาน และสินค้า เพื่อย่นระยะเวลาและประสิทธิภาพการขนส่ง สามารถขนส่งไปที่ต่างๆของโลกได้ง่ายขึ้นมาก

บริษัทฯ เปรียบนายกฯ เป็นหัวจักรสำคัญที่จะขับเคลื่อนทั้งการพัฒนาระบบการขนส่งและการพัฒนา ที่จะสำเร็จด้วยดี จึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งต่อศักยภาพของไทยที่จะเป็น hub การขนส่งระบบราง

 

ที่มาภาพ/ข้อมูล : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/73437