ฟื้นผิวด้วย LumiDart แผ่นนำแสงสามมิติ

  สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สถานเสริมความงามต่างๆ ต้องปิดให้บริการชั่วคราว ผู้บริโภคจึงเริ่มหันมาดูแลผิวพรรณในรูปแบบที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผิวพรรณและความสวยงาม โดยเฉพาะอุปกรณ์เสริมความงามที่เน้นเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้เองเกิดการขยายตัวและมีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 900 ล้านบาทในประเทศไทย     ดร.ไพศาล ขันชัยทิศ หัวหน้าทีมวิจัยเข็มระดับนาโน กลุ่มวิจัยวัสดุตอบสนองและเซ็นเซอร์ระดับนาโน ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ประยุกต์ความเชี่ยวชาญด้านเข็มระดับไมโครเมตรและนาโนเมตรพัฒนา “ลูมิดาร์ท (LumiDart) แผ่นนำแสงสามมิติเพื่อฟื้นฟูผิว” “ลูมิดาร์ทพัฒนาขึ้นจากการนำแผ่นเข็มนำแสงสามมิติที่วิจัยและพัฒนาโดยนาโนเทค ซึ่งมีขนาดเล็กมากในระดับไมโครเมตร ผสานกับเทคโนโลยีการบำบัดผิวด้วยการฉายแสง หรือ Phototherapy ที่ใช้แสงจากแอลอีดี (Light Emitting Diode: LED) ส่องผ่านเข้าไปใต้ผิว เพื่อบำบัดและฟื้นฟูสภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก เทคโนโลยีนี้ใช้แสงแอลอีดีเป็นแหล่งกำเนิดแสง แสงแต่ละสีมีค่าความยาวคลื่นแสงที่ต่างกัน จึงมีคุณสมบัติให้การบำบัดที่แตกต่างกันออกไป เช่น แสงสีฟ้า (ความยาวคลื่น 470 นาโนเมตร) จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาสิว ส่วนแสงสีแดง (ความยาวคลื่น 640 นาโนเมตร) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอย การใช้แสงในการบำบัดจำเป็นต้องใช้พลังงานสูงมาก ทำให้แสงทำปฏิกิริยากับเซลล์ผิวได้ ดังนั้นเราจึงประยุกต์ใช้ร่วมกับแผ่นเข็มนำแสงสามมิติระดับไมโครเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดโดยการนำพาแสงไปยังชั้นใต้ผิวหนังได้โดยตรง ทำให้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และใช้พลังงานหรือความเข้มแสงน้อย […]

30th Anniversary Story of NSTDA: นวัตกรรมรับมือ “สังคมผู้สูงอายุ”

  โลกกำลังก้าวเข้าสู่ศตวรรษแห่งผู้สูงอายุ เมื่อประเทศพัฒนาแล้วแทบทุกชาติเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ ประเทศกำลังพัฒนาเกือบทุกประเทศมีสัดส่วนประชากรของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประเทศไทยเองกำลังอยู่ในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ซึ่งการเข้าสู่สังคมชราภาพนับเป็นความท้าทาย เพราะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่มีวัยพึ่งพิงมากกว่าวัยทำงานนั้น ย่อมต้องประสบปัญหาทั้งการขาดแคลนแรงงาน สุขภาพ รวมถึงเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้ความสำคัญต่อการพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ขณะเดียวกันยังเป็นการเตรียมพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพ   นวัตกรรม ‘รถเข็นไฟฟ้า’ เพื่อคนพิการและผู้สูงวัย ปัจจุบันมีผู้สูงอายุและคนพิการทางด้านการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต้องการใช้รถเข็นเพิ่มมากขึ้น ทว่ารถเข็นที่ใช้งานส่วนใหญ่มักเป็นรถเข็นแบบทั่วไป ต้องอาศัยกำลังแรงคนในการใช้มือผลักดัน ในกรณีที่ผู้สูงอายุหรือคนพิการที่ไม่มีกำลังแขนก็ต้องพึ่งพาคนใกล้ชิด ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระ และไม่สะดวกในการเดินทางนัก ขณะที่รถเข็นไฟฟ้าแม้จะใช้งานง่าย แต่ยังมีราคาค่อนข้างสูง ตั้งแต่ราคา 20,000-100,000 บาท ทำให้มีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้     ดร.ดนุ พรหมมินทร์ ทีมวิจัยชีวกลศาสตร์ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. ได้วิจัยพัฒนา ‘M-Wheel อุปกรณ์พ่วงต่อปรับรถเข็นทั่วไปเป็นรถเข็นไฟฟ้า’ ที่สะดวก ปลอดภัย และราคาไม่แพง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้รถเข็นทั่วไปไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุหรือคนพิการที่ยังใช้งานร่างกายท่อนบนได้ดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานได้ดียิ่งขึ้น โดยอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ ชุดขับเคลื่อน ชุดควบคุมการเคลื่อนที่ […]

ไขเคล็ดลับ ‘ทีมกรุงเทพคริสเตียนฯ’ คว้าแชมป์ ‘AHiS’ ปลูกโหระพาบนโลกเทียบผลกับบนอวกาศ

         ไม่บ่อยครั้งที่เด็กและเยาวชนไทยจะได้ทำการทดลองบนโลกคู่ขนานกับการทดลองบนอวกาศ แต่ในที่สุดโอกาสดีๆ ก็มาถึงแล้ว เมื่อสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (Japan Aerospace Agency: JAXA) และหน่วยงานพันธมิตรจัดโครงการ Asian Herb in Space หรือ AHiS ขึ้นเมื่อต้นปี 2564 เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยกว่า 300 ทีมทั่วประเทศได้ทดลองปลูกโหระพา ราชาพืชสมุนไพรบนโลก เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบผลกับที่นักบินอวกาศปลูกบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)     กุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า โครงการ Asian Herb in Space เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนไทยได้เข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านอวกาศ ในเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยเฉพาะเรื่องสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ (Microgravity) ซึ่งความรู้ที่ได้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากระบวนการผลิตอาหารต่อไปในอนาคต ที่สำคัญการที่เด็กและเยาวชนได้ทำกิจกรรมนี้จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะด้าน STEM (Science, Technology, Engineering, and Mathematics) ผ่านการลงมือเรียนรู้ด้วยตนเอง (Project-based learning) อีกด้วย “เด็กและเยาวชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการ AHiS […]

โรคไข้หูดับ ภัยเงียบที่ควรจับตามอง

  “โรคไข้หูดับ” คือ โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจากการติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) จากหมู ความรุนแรงของโรคไม่เพียงสามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการหูหนวกถาวรแต่ยังเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยทั่วไปโรคไข้หูดับมักพบในประเทศที่มีการทำฟาร์มหมูหนาแน่นและมีความนิยมในการบริโภคเนื้อหมู เช่น ประเทศในแถบทวีปเอเชียรวมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาในไทยมีอัตราการติดเชื้อที่ไม่สูงนักจึงทำให้โรคนี้เป็นโรคติดเชื้อที่ถูกเพิกเฉย (Neglected zoonosis disease) และทำให้พิษภัยของโรคขยายตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ทั้งด้านอัตราการติดเชื้อ การระบาดของโรค และภาวะเชื้อดื้อต่อยาต้านจุลชีพ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข การเกษตร และการส่งออกเนื้อหมูของไทย ดร.สุกัญญา ยงเกียรติตระกูล นักวิจัยกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและการค้นหาสารชีวภาพ  ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ผู้ทำวิจัยเรื่องเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ในประเทศไทย อธิบายว่า ในไทยพบพฤติการณ์ของการติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ส่วนใหญ่ผูกโยงกับวัฒนธรรมการบริโภคเนื้อและเลือดหมูดิบ กึ่งสุกกึ่งดิบ หรือไม่สุกดี เช่น การบริโภคลาบหมูดิบ หลู้ ก้อย และหมูกระทะ โดยจะพบอัตราการติดเชื้อสูงในช่วงเทศกาลที่ผู้คนเฉลิมฉลองหรือมีกิจกรรมบันเทิงร่วมกัน เช่น เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และในช่วงออกพรรษา นอกจากนี้ยังพบการติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือทางเยื่อบุตาในกลุ่มผู้ที่มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับหมูป่วย เช่น เกษตรกรในฟาร์ม หรือผู้ที่ทำงานในโรงเชือด   […]

ThaiSC บริการ Supercomputer ผลักดันวิจัยเชิงลึก หนุนแก้ปัญหาวิกฤตประเทศ

  ปัจจุบันโลกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลปริมาณมหาศาล องค์กรชั้นนำทั่วโลกต่างใช้เทคโนโลยีคำนวณในการวิเคราะห์ข้อมูลและจำลองแบบเพื่อการวิจัยและพัฒนางานที่มีความท้าทายสูง เพื่อทลายขีดจำกัดของกรอบงานเดิม ในบางกรณีสามารถลดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก 6 เดือนเหลือเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีองค์กรเพียงส่วนน้อยที่สามารถวิจัยโดยใช้แบบจำลองที่แม่นยำสมจริง หรือนำข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องด้วยระบบ Supercomputer ที่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคการประมวลผลสมรรถนะสูง (High Performance Computing: HPC) มีราคาเครื่องสูงตั้งแต่หลักสิบล้านไปจนถึงหลักหมื่นล้านบาท อีกทั้งต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการดูแลรักษาระบบ จึงเป็นการยากแก่การลงทุนเพื่อใช้งานในเฉพาะองค์กร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว และได้รับภารกิจในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศ (National S&T Infrastructure: NSTI) จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (NSTDA Supercomputer Center: ThaiSC)” ขึ้นในปี 2562 ภายในพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สำหรับให้บริการทรัพยากรเพื่อการทำงานด้าน HPC แก่ภาครัฐและเอกชน มุ่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ     ดร.มนัสชัย คุณาเศรษฐ หัวหน้าทีมวิจัยศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (ThaiSC) สวทช. กล่าวว่า […]

เทคโนโลยีการผลิต “Cider vinegar” เครื่องดื่มสุขภาพจากผลไม้ไทย

        “Cider vinegar” หรือ “น้ำส้มสายชูหมัก” เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เพราะกรดแอซีติก (Acetic acid) ซึ่งเป็นสารสำคัญในเครื่องดื่มประเภทนี้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหารและควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ดี ส่งผลให้ตลาดของผลิตภัณฑ์ Cider vinegar มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์ว่าในปี 2570 ผลิตภัณฑ์ Cider vinegar ในตลาดโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาในประเทศไทยยังมีส่วนแบ่งในตลาดนี้น้อย เพราะแม้จะมีผลผลิตทางการเกษตรจำนวนมากที่สามารถใช้เป็นวัตถุดิบได้ แต่ผู้ประกอบการไทยยังขาดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสม จึงยากแก่การผลิตสินค้าในระดับอุตสาหกรรม ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต Cider vinegar แบบขั้นตอนเดียว สำหรับวัตถุดิบการเกษตรของไทย โดยเป็นกระบวนการผลิตแบบง่ายและต้นทุนต่ำ ช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) สามารถเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีแปรรูปสินค้าการเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้   นายยุทธนา กิ่งชา นักวิจัยทีมวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพทางอาหาร กลุ่มวิจัยส่วนผสมฟังก์ชันและนวัตกรรมอาหาร ไบโอเทค สวทช. อธิบายว่า จุดเริ่มต้นการทำวิจัยนี้มาจากความต้องการของบริษัทเอแอนด์พี ออร์ชาร์ด 1959 จำกัด ผู้ผลิตมังคุดที่ต้องการแก้ปัญหามังคุดล้นตลาดด้วยการนำมาแปรรูปเป็น Cider vinegar เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม […]

30th Anniversary Story of NSTDA: สวทช. พัฒนาเทคโนโลยียกระดับอุตสาหกรรมการผลิตอ้อยและน้ำตาลสู่การทำน้อยแต่ได้มาก

  อุตสาหกรรมการผลิตอ้อยเพื่อการแปรรูปเป็นน้ำตาลของประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันระดับโลก เนื่องจากมีข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุนการผลิตอ้อยต่ำ และยังมีทำเลที่ตั้งของประเทศอยู่ในภูมิภาคที่มีความต้องการบริโภคน้ำตาลสูง ทำให้ต้นทุนการส่งออกถูกกว่าผู้ผลิตในทวีปอื่น ส่งผลให้ไทยมีสถิติการส่งออกน้ำตาลเป็นอันดับต้นของโลก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตอ้อยและน้ำตาลจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ด้วยการทำวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี ทั้งการพัฒนาสายพันธุ์อ้อย การทำเกษตรสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ และการพัฒนาชุดตรวจเพื่อควบคุมคุณภาพการผลิตน้ำตาลระดับอุตสาหกรรม ฯลฯ     พัฒนาสายพันธุ์อ้อยความหวานสูง เพื่อความคุ้มค่าสูงสุดในการลงทุน อ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจที่ปลูกและเก็บเกี่ยวได้เพียงปีละครั้ง เพื่อให้การเพาะปลูกอ้อยในแต่ละรอบการผลิตเกิดประโยชน์สูงสุด สวทช. ได้วิจัยและพัฒนาสายพันธุ์อ้อยที่ให้ความหวานสูง แปรรูปเป็นน้ำตาลได้มาก เพื่อช่วยเพิ่มผลกำไรให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ สวทช. โดยศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ (NOC) นำเทคโนโลยี Marker Assisted Selection หรือ MAS ที่มีประสิทธิภาพในการคัดเลือกพันธุ์สูง มาใช้ในการคัดเลือกพันธุ์อ้อยที่เหมาะสมให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ ทำให้ระยะเวลาในการคัดเลือกพันธุ์จาก 10-12 ปี ตามวิธีมาตรฐาน ลดลงเหลือเพียง 6 ปี และมีความแม่นยำในการคัดเลือกที่สูงกว่ามาก โดย NOC ยังได้ร่วมกับ บริษัทมิตรผลวิจัย พัฒนาอ้อยและน้ำตาล จำกัด ดำเนิน “โครงการปรับปรุงพันธุ์อ้อยแบบบูรณาการเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำตาล” เพื่อศึกษาและค้นหาเครื่องหมายโมเลกุลที่สัมพันธ์กับความหวานในอ้อยสำหรับใช้คัดเลือกพันธุ์อ้อยลูกผสม โดยได้ค้นพบเครื่องหมายโมเลกุล 3 เครื่องหมาย […]